ผมเป็นนักศึกษาปี1ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่าไอ้พรรคพวกร่วมก๊วนกับผมมันบ่นเปรยๆ ให้ฟังบ่อยๆ ว่ามีรุ่นพี่ปีสามคณะนิเทศฯคนหนึ่ง ชื่อว่าหมิว สวยมาก เป็นดาวคณะที่มีหนุ่มๆ รุมจีบกันตรึม มิหนำซ้ำเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้กับคณะด้วย ทีแรกผมก็ไม่ค่อยได้สนใจนัก อีกทั้งหน้าตาของเจ้าหล่อนก็ไม่เคยเห็นเพราะเรียนอยู่คนละคณะ บวกกับกิจกรรมด้านกีฬาสำหรับผม ก็แทบจะไม่เคยสนใจวันหนึ่งไอ้ตี๋เพื่อนร่วมก๊วนของผมมันคลั่งหนัก บุกเข้าไปขอเดทกับพี่หมิวคนนี้ดื้อๆ ก็เลยถูกตอกหน้าหงายมาตามระเบียบ มันกลับมาคร่ำครวญด้วยความเจ็บใจในวงเหล้า ที่พวกเราชอมมาสุมหัวกันทุกคืน จนผมชักอยากเห็นหน้าพี่หมิวคนสวยนี่ตงิดๆ วันต่อมาผมจึงเดินเตร่ไปที่คณะนิเทศฯ และก็ได้เห็นพี่หมิวสมใจ อื้อหือ..อย่าให้เซ่ดเลยครับ สวยเป็นบ้า ขาวไปทั้งตัวรูปร่างสูงโปร่งเพอร์เฟกจริงๆ มิน่าล่ะไอ้ตี๋มันถึงบ้าไปได้ขนาดนั้น แต่ไอ้ท่าทางเปรี้ยวสุดขีด และใส่กระโปรงสั้นอวดเรียวขาอย่างน่าเสียวไส้ออกอย่างนั้น บอกได้เลยตามประสาของคนที่เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง ผมว่าไม่ยากเกินเอื้อมผมจึงกลับไปบอกพรรคพวกว่าจะจีบพี่หมิวคนสวยนี่ให้ดู ซึ่งแต่ละคนก็หัวเราะเยาะความคิดของผม โดยเฉพาะไอ้ตี๋มันถึงยอมพนันกับผมสิบเอาแค่หนึ่ง ว่าผมจะต้องถูกตอกหน้าหงายมาเหมือนกับมัน ซึ่งผมก็รับคำท้าทันทีด้วยความรู้สึกเดือดๆ อยู่ในใจที่ถูกพรรคพวกดูถูกดูแคลนเช่นนี้ ไอ้พวกเพื่อนใหม่ของผมมันไม่รู้หรอกว่าผมน่ะประสบการณ์โชกโชนแค่ไหนในเวลาไม่ถึงอาทิตย์ผมก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัว สร้างโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักกับพี่หมิวคนสวย แน่นอนครับต้องด้วยมาดหนุ่มน้อยหน้าใสมาดเท่ๆ ท่าทางสุดแสนจะน่าไว้ใจในการคบค้าสมาคมด้วย จากนั้นผมก็สืบเสาะหาข้อมูลของพี่หมิวจนรู้หมดว่ามีเรียนวันไหนมีกิจกรรม ต้องทำอะไรบ้างเพื่อหาโอกาสเหมาะในการปฏิบัติกามกิจ บอกตามตรงหลังจากเข้ามาพัวพันใกล้ชิดพี่หมิวไม่นาน ผมก็รู้สึกกระสันซ่านไปกับเรือนร่างที่สุดแสนจะงดงาม จนแทบจะอดใจไม่ไหวอยู่หลายครั้ง แต่ก็ต้องสะกดเอาไว้สุดชีวิตเพื่อไม่ให้แผนเสียไปซะก่อน และในที่สุดหวยก็มาออกตรงวันที่พี่หมิวต้องซ้อมเชียร์ลีดเดอร์จนถึงเย็น ผมน่ะยิ้มกริ่ม แผนการณ์ทุกอย่างผุดขึ้นในหัวอย่างใสปิ๊งเย็นวันนั้นหลังจากซ้อมเชียร์เสร็จก็เกือบหกโมงครึ่ง เมื่อพี่หมิวเดินมาถึงที่จอดรถก็ลมแทบใส่ เมื่อเห็นยางล้อรถนั้นแบนติดดิน ขณะที่พี่หมิวกำลังเก้ๆ กังๆ อยู่ ตอนนั้นเองผมก็โผล่เข้าไปเป็นอัศวินขี่ม้าขาว ถามหน้าซื่อทักทายเหมือนกับพบกันโดยบังเอิญ และรีบขันอาสาเปลี่ยนยางล้อรถให้ทันที ขณะที่เปลี่ยนยางพี่หมิวมายืนให้กำลังใจข้างๆ ชายกระโปรงสั้นที่พี่หมิวใส่นั้น ทำให้สายตาของผมไม่ค่อยจะมองอยู่กับงานที่กำลังง่วนทำอยู่เลย เพราะมันคอยแต่จะวนเวียนไปมองเรียวขาที่ขาวเกลี้ยงไม่มีริ้วรอยตำหนินั้นอยู่ตลอดเวลา ไอ้หนูของผมก็เริ่มกระดุกกระดิกอย่างอยู่ไม่สุข พักหนึ่งผมบ่นว่าคอแห้งพี่หมิวคนสวยก็กุลีกุจอไปหาซื้อน้ำอัดลมกระป๋องมาให้ โดยที่พี่หมิวเองก็ถือดื่มกระป๋องหนึ่งเหมือนกัน ทุกอย่างเข้าแผนของผมเป๊ะ ผมทำทีเป็นขอให้ พี่หมิวไปค้นหาเครื่องมือบางอย่างที่ผมรู้ว่าไม่มีหรอกที่ท้ายรถ โดยอาสาถือกระป๋องน้ำอัดลมให้ ซึ่งเมื่อพี่หมิวเดินไปหาของท้ายรถ ผมก็อาศัยความเร็วผสมยาบางอย่างลงไปในน้ำอัดลมกระป๋องนั้น ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นไรไม่ต้องหาแล้ว และส่ง กระป๋องน้ำอัดลมคืนให้เมื่อพี่หมิวเดินกลับมา จากนั้นผมก็ทำงานไปด้วยอารมณ์ที่สุดแสนจะเบิกบาน และเหลือบมองไปทีไร ก็เห็นพี่หมิวดื่มน้ำอัดลมนั้นจนกระทั่งหมดกระป๋อง ถึงตอนนี้ไอ้หนูของผมก็แข็งเด่ จนต้องเอาแขนกดๆ เอาไว้ไม่ให้มันโป่ง ออกมา ผมรู้สรรพคุณของยาดี ไม่ถึงกับทำให้หลับ เพราะผมไม่ชอบลักหลับเพราะรู้สึกเสียอารมณ์เป็นบ้า ยานั้นเพียงแค่จะ ทำให้พี่หมิวคนสวยรู้สึกมึนๆ ไร้เรี่ยวแรงจะมาขัดขืนความต้องการของผมเท่านั้นเมื่อผมเปลี่ยนยางเสร็จ พี่หมิวก็ขอบคุณผมเสียงอ่อนหวาน และแน่นอนเมื่อผมบอกว่าขอติดรถไปด้วยคน มีหรือที่จะได้รับคำปฏิเสธ ดังนั้นผมจึงนั่งยิ้มกริ่มเคียงคู่ กับพี่หมิวคนสวยขับรถออกไปจากมหาวิทยาลัย ผมใจเต้นแรงเมื่อพี่หมิวบอกว่ารู้สึกมึนศีรษะ มือเท้าชาไปหมด ผมทำเป็นพูด ด้วยความห่วงใย ให้เธอจอดรถพักข้างทางก่อน ซึ่งพี่หมิวคงจะมึนเต็มที่จึงชะลอรถจอดลงข้างถนน และนั่งหลับตา ผมมองไปที่ถนนซึ่งแม้จะเป็นเวลาตะวันตกดินไปแล้ว แต่รถราก็ยังวิ่งขวักไขว่ แถมแสงไฟที่ถนนก็ยังสว่างพอประมาณ เห็นทีจะเผด็จศึกที่นี้ไม่ได้ ถ้าปล่อยเอาไว้เดี๋ยวยาหมดฤทธิ์ก็อดแดกพอดี ผมจึงขันอาสาทำทีเป็นเห็นใจว่าพี่หมิวจะกลับบ้านดึก ขอขับรถไปส่งที่บ้านให้ ซึ่งท่าทางแสดงความจริงใจเสียเหลือเกินของผม ก็ทำให้พี่หมิวไว้ใจเมื่อเปลี่ยนมานั่งที่คนขับแทน ส่วนพี่หมิวคนสวยน่ะเหรอ ผมแนะให้ไปนั่งตอนหลังจะได้สบายๆ โดยที่พี่หมิวไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่ผมบอกสบายๆ น่ะไว้สำหรับผมเอง ไอ้ที่นั่งตอนหน้ามันคับแคบและเกะกะจะตายไป ผมพยายามมองหาที่เหมาะๆ และก็เลี้ยวรถเข้าไปในซอยมืดที่เป็นอาคารห้องแถวร้างแห่งหนึ่งเมื่อผมดับเครื่องยนต์ก็รีบออกจากที่นั่งคนขับ ไปนั่งเบียดแนบชิดร่างอ่อนระทวยของพี่หมิวทันที ไอ้หนูของผมมันแข็งปั๋งพร้อมรบเต็มที่แล้ว ผมคว้ามับไปที่ขาอ่อนที่หมายตาไว้เนิ่นนานแล้ว เค้นคลึงลงไปตามเนื้อที่นุ่มนิ่มนั้น พี่หมิวส่งเสียงร้องประท้วงดิ้นรนอย่างตกใจ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะมาขัดขืนความต้องการของผมผมผลักร่างของพี่หมิวหงายลงไปกับเบาะ และก้มตามลงไปถลกกระโปรงพี่หมิวขึ้นไปไว้บนเอว จากนั้นทั้งนิ้วและลิ้นที่ผมฝึกฝนมาจน ชำนาญ ก็ระดมไปบนเนินสามเหลี่ยมที่มีขนละเอียดนุ่มของพี่หมิวอย่างเมามัน โดยที่กางเกงในสีขาวตัวจิ๋วนั้น ไม่สามารถ จะปิดป้องการจู่โจมของผมได้เลยแม้แต่น้อย จนในที่สุดเสียงร้องห้ามของพี่หมิวเริ่มค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงคราง กางเกงในผ้าลูกไม้นั้นชุ่มไปด้วยทั้งน้ำลายของผม และน้ำของพี่หมิวที่ไหลออกมาจากหว่างขา ผมเลียอยู่จนพอใจ จากนั้นก็เปลี่ยนที่ คืบคลานไปบนตัวของพี่หมิวที่นอนหงายอยู่ คราวนี้ที่หมายของผมเป็นริมฝีปากของพี่หมิว ซึ่งริมฝีปากของพี่หมิวเผยอขึ้นรับการจูบของผมอย่างเต็มใจ ผมสอดลิ้นเข้าไปกระหวัดพัวพันลิ้นของพี่หมิวอย่างสนุก ขณะที่มือทั้งสองข้างช่วยกันปลดกระดุมเสื้อของพี่หมิวไปทีละเม็ดจนหมด ก่อนที่จะละเลงไปบนเต้านมที่เต่งตึงนั้น พี่หมิวส่งเสียงครวญครางออกมา ร่างที่ เดิมปวกเปียกอยู่แล้ว คราวนี้อ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งถูกไฟลนยังไงยังงั้น ผมตวัดมือไปปลดตะขอเสื้อยกทรงของพี่หมิวให้ หลุดออกจากกัน เป้าหมายใหม่ของผมก็กลายเป็นหัวนมเต่งตึงสีชมพูเรื่อนั้นทันที ผมทั้งดูดทั้งเลียดื่มด่ำกับรสสัมผัสที่ผม บอกกับตัวเองว่ายอดเยี่ยมกว่ากระหรี่ที่ผมหิ้วไปตีอยู่บ่อยๆ อย่างเทียบกันไม่ติดแม้แต่นิดเดียวเสียงครางจากพี่หมิวดังขึ้น เรื่อยๆ ร่างที่นอนหงายอยู่นั้นบิดส่าย ด้วยความรู้สึกเร่าร้อนที่ถูกผมปลุกปั่น ผมจัดการรูดกางเกงในพี่หมิวหล่นไปกองอยู่กับข้อเท้า ร่องสีชมพูที่มีขนละเอียดปกคลุมอยู่นั้นกระจ่างแก่สายตาของผมทันที ผมไม่รอช้าที่จะก้มลงใช้ลิ้นดุนและเลียไปตามร่องสีชมพู ซี่งตอนนั้นมีน้ำของพี่หมิวเอ่อออกมาจนชุ่ม เม็ดทับทิมที่เต่งตึงอยู่ภายในร่องสวรรค์ ถูกลิ้นของผมทั้งเลียทั้งดูดอย่างชำนาญ ในเวลาไม่ช้าร่างของพี่หมิวก็เขม็งเกร็งสุดตัวสั่นกระตุกถี่ แสดงอาการถึงจุดสุดยอด พร้อมๆ กับส่งเสียงครางอย่างเป็นสุข ชนิดที่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นครั้งแรกของพี่หมิวตอนนี้ไอ้หนูของผมมันคับเป้าจนผมต้องไปปลดปล่อยมันออกมาจากซิปกางเกง ซึ่งพอมันโผล่ออกมาโด่เด่ ก็จิ้มพรวดเข้าไปจ่อรูสวรรค์ที่หยาดเยิ้มรอคอยอยู่แล้ว ผมพยายามยัดท่อนเนื้อที่แข็งปั๋งเข้าไปในร่องกลีบที่แคบคับนั้นอย่างช้าๆ เสียงพี่หมิวครวญครางด้วยความเจ็บ ผมพยายามส่งเสียงปลอบและค่อยๆ ดันเข้าไปทีละนิด จนกระทั่งมิดด้าม และค่อยๆ ชักเข้าชักออกอย่างช้าๆ จนรู้สึกว่าร่องสวรรค์นั้นค่อยๆ ปรับตัวให้เข้าอาวุธของผมแล้ว ไอ้หนูของผมก็เริ่มทำงานเต็มสูบ เสียงพั่บๆ ดังขึ้นทุกครั้งที่ มันอัดกระแทกเข้าไปในร่างกายของพี่หมิว บอกตามตรงถึงแม้ผมจะมีประสบการณ์โชกโชนขนาดไหนก็ตาม แต่พอมาเจอ ร่องสวรรค์ของพี่หมิวที่คับแคบสุดๆ บ่งบอกชัดเจนถึงการเป็นสินค้าใหม่เอี่ยม ที่เพิ่งถูกแกะกล่องใช้งานเป็นครั้งแรก แค่ไม่ กี่นาทีผมเองก็ไม่สามารถระงับใจไหว กระทั่งจะดึงไอ้หนูของผมให้ออกมาก่อนก็ยังไม่ทันเลย ดังนั้นจึงปล่อยเลยตามเลย ระเบิดน้ำกามเข้าไปในตัวของพี่หมิวอย่างชนิดที่เรียกว่าสุดๆ ไม่มีออม ร่องแคมของพี่หมิวนั้นก็ตอดรัดกระชับแน่นไปกับของผม ดูดซับน้ำกามของผมเข้าไปจนแทบทุกหยดหยาดเลยทีเดียว เสียงพี่หมิวกระซิบถามผมว่าออกตรงไหน ถ้าบอกตามจริงก็บรรลัยสิครับ ผมก็เลยก้มหน้าไปกระซิบว่าออกข้างนอกไม่ต้องเป็นห่วง จากนั้นเพื่อกลบเกลื่อนหลักฐาน ผมก็เลยรีบใช้ ลิ้นดูดและเลียไปตามร่องแคมที่สวยงาม ราวกับกลีบดอกไม้นั้นอีกพักใหญ่ จนพี่หมิวถึงจุดสุดยอดไปอีกครั้ง ไอ้หนูของผมก็เริ่มมีฤทธิ์ขึ้นมาอีกผมจับตัวของพี่หมิวซึ่งไม่ต่างอะไรกับตุ๊กตาให้ผมปั้นตามใจชอบ ให้นอนคว่ำหน้ากับเบาะ ขยำขยี้ไปบนแก้มก้นที่นุ่มนิ่มเนียนมือนั้นอยู่พักใหญ่ ก่อนจะแหวกมันออกจนเห็นรูขี้ของพี่หมิวที่เล็กนิดเดียว ฮิฮิ ใช่แล้วครับ นี่ก็คือเป้าหมายต่อไปของผม ก่อนอื่นผมใช้นิ้วมือเบิกร่องเข้าไปก่อน ท่ามกลางความเจ็บปวดรวดร้าวของพี่หมิว แต่พอสัก พักเมื่อร่างกายของพี่หมิวเริ่มบิดไหวไปด้วยอารมณ์ ผมก็เปลี่ยนมาเป็นหัวที่แดงก่ำของไอ้หนูผมซึ่งรออยู่นานแล้ว พอผม แทรกเข้าไปได้หน่อยเดียว พี่หมิวก็ร้องลั่นพยายามขยับหนี แต่ผมกดตัวของพี่หมิวไว้แน่น ก่อนจะใช้แรงโถมตัวพรวดลงไป อย่างรวดเร็วกว่าครึ่งท่อน จากนั้นก็ค่อยๆ สาวเข้าไปจนกระทั่งมิดด้าม พี่หมิวค่อยๆ ส่ายก้นรับการ กระแทกของผม ผมทาบตัวไปตามแผ่นหลังของพี่หมิว ตวัดมือไปขยำขยี้ทรวงอกที่เต่งเต้านั้น ดูๆ ไปพี่หมิวเริ่มซึมซาบกับความสุขจากท่านี้ที่ผมสอนให้รู้จักแล้ว ส่งเสียงร้องครวญครางไม่ขาดปาก คราวนี้ผมควบคุมไอ้หนูของผมดีขึ้น ทะลวง ในท่านั้นอยู่ได้นานราวครึ่งชั่วโมง ซึ่งพี่หมิวถึงจุดสุดยอดไปแล้วตั้งสองครั้ง พอผมชักจะได้ที่แล้วก็รีบชักไอ้หนูออกมา พลิกตัวของพี่หมิวขึ้นมานั่งข้างๆ และกดศีรษะที่มีผมดำสลวยนั้นให้โน้มลงไปตรงหว่างขา ที่ไอ้หนูของผมชี้ตั้งอยู่โด่เด่นั้น ขณะแรกพี่หมิวยังเขินอยู่บ้าง แต่ในที่สุดก็ยอมอ้าปากออกอมไอ้หนูของผมเอาไว้ ผมหลับตาด้วยความหฤหรรษ์ กดศีรษะ ของพี่หมิวลงไปอีก จนรู้สึกว่าหัวของไอ้หนูนั้นเลยลึกไปจนถึงลำคอของพี่หมิว ก่อนที่ผมจะยกสะโพกขึ้นลงอย่างช้าๆ ขณะที่พี่หมิวเองก็ผงกศีรษะขึ้นลงรับกับจังหวะของผมอีกแรงหนึ่ง คราวนี้เป็นผมบ้างล่ะที่ครางออกมาอย่างเสียวสะท้าน โอย..มันเป็นบ้า หลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีผมก็กดศีรษะของพี่หมิวไว้แน่น ก่อนจะระเบิดน้ำเมือกระลอกสองเข้าไปในปากของ พี่หมิวอย่างสุขสุดยอด พี่หมิวพยายามยกศีรษะออก แต่ผมไม่ยอม พี่หมิวจึงจำต้องคาอยู่ในสภาพนั้น จนกระทั่งไอ้หนูของ ผมเริ่มฝ่อตัวและหลุดออกมาเอง พี่หมิวจึงยันตัวขึ้นมาได้ โดยน้ำกามของผมไหลเยิ้มออกมาจากมุมปาก และย้อยไปตามคาง ของพี่หมิว ผมยัดไอ้หนูซึ่งหมดฤทธิ์แล้วกลับเข้าที่ ขณะที่พี่หมิวจัดแจงเครื่องแบบนักศึกษาให้เข้าที่มือไม้สั่นพี่หมิวร้องไห้ และตบผมอย่างแรงจนปากแตก แต่จะว่าอะไรผมได้มาก ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเราสองคนมีความสุขร่วมกันขนาดไหนจริงม๊ะ ซึ่งพอผมเองปลอบโยนไปเรื่อยๆ ตามสไตล์ของผม จนในที่สุดพี่หมิวก็หยุดร้องไห้ ปล่อยให้ผมปลอบด้วยรสจูบอีกพักใหญ่ ก็ขับรถกลับออกมาส่งผมที่หอพัก คืนนั้นผมผิวปากนอนกระดิกเท้าดูเพดานอย่างเป็นสุข แต่พอหวนคิดได้ว่าผมดันไปปล่อยน้ำเชื้อเอาไว้ในตัวของพี่หมิว ถ้าเกิดป่องขึ้นมาเห็นทีจะยุ่ง ถึงแม้ว่าพี่หมิวจะสวย ขนาดไหน แต่ผมก็ไม่อยากจะผูกพันด้วยในระยะยาว อย่างว่า..ของที่ผมได้มาแล้วนั้น ก็คลายความน่าตื่นตาตื่นใจไปเยอะ เห็นทีจะต้องหาแพะสักตัว และไอ้ตี๋น่าจะเป็นแพะที่ยินดีเข้ามารับบาปอย่างหน้ามืดตามัวได้ไม่ยาก นึกถึงพี่หมิวก็อดนึก สงสารอยู่เหมือนกัน แต่ทำไงได้อนาคตผมสำคัญกว่านี่ แต่มีแฟนอย่างไอ้ตี๋ก็ไม่ถึงกับเลวร้ายตรงไหน เห็นบอกว่ามัน ลูกชายของกำนันใหญ่เชียวนาวันต่อมาในวงเหล้าผมจึงเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมากับพี่หมิวให้ไอ้ตี๋กับพวกฟัง ทีแรกพวก มันว่าผมโม้ แต่หลังจากฟังคำผมยืนยันหนักแน่น และที่สำคัญผมแอบเอาหลักฐานคืนวันนั้นมาด้วย คือกางเกงใน ของพี่หมิวที่ยังมีกลิ่นหืนๆ ของน้ำรักจากพี่หมิวอยู่เลย ทำให้ไอ้ตี๋และพวกตาลุกวาว โดยเฉพาะไอ้ตี๋มันทำท่าทาง แค้นจัด ฐานที่ต้องเสียทั้งหน้าและเงินพนันให้กับผมเป็นจำนวนสูงพอสมควร มันจึงมีทีท่าโกรธๆ ผม ไม่ยอมพูดคุยด้วย แต่เมื่อผมเสนอว่าถ้ามันไม่ติดใจที่ผมเบิกร่องไปก่อนล่ะก็ ผมยินดีจะเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ระหว่างมันกับพี่หมิวให้ ซึ่งไอ้ตี๋ตาลุกเปลี่ยนท่าทีต่อผมจากหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย กล่าวอย่างหนักแน่นว่าถ้าผมทำสำเร็จ มันยินดีจ่ายเงินให้มาก กว่าที่มันจ่ายผมในวันนี้อีกสิบเท่า ซึ่งผมก็รับปากน่ะสิ ตรงตามแผนที่วางเอาไว้เป๊ะจากนั้นผมก็หาจังหวะไปหาพี่หมิว รู้สึกว่าพี่หมิวจะดูเปล่งปลั่งเซ็กซี่กว่าเก่าเสียอีก แต่งหน้าทาปากสีจัดจ้าน เครื่องแบบนักศึกษานั้น อื้อหือ เมื่อก่อนว่าสั้นแล้ว เดี๋ยวนี้ยิ่งสั้นกุดขึ้นไปอีก ขนาดที่ว่านั่งแล้วไม่หาอะไรมาวางบนตัก มีหวังทำให้ผู้ชายคอเคล็ดกันเป็นแถว ทำให้ผมรู้สึก เสียดายขึ้นมาตงิดๆ ความจริงผมน่าจะเล่นต่อสักพักก่อนค่อยโละให้ไอ้ตี๋ก็ยังไม่สาย ไม่น่าด่วนตัดสินใจไปเลย แต่ทำไง ได้เรื่องมันแล้วไปแล้ว ผมก็ได้ถอนหายใจด้วยความเสียดาย ผมน่ะมั่นใจในเสน่ห์ตัวเองเสมอยิ่งคืนนั้นเป็นการจากกันด้วยดีเสียด้วย ทำให้ถึงแม้ในทีแรกพี่หมิวทำเป็นไม่สนใจผมและไม่อยากคุยด้วย ผมก็หน้าด้านชวนกระเซ้าเย้าแหย่อาศัยลิ้น ของผม ในที่สุดก็ทำให้พี่หมิวหัวเราะออกมาจนได้ หลังจากนั้นน่ะเหรอครับ ผมก็ควงแขนพี่หมิวสุดเซ็กซี่มาถึงหอพักของผมน่ะสิครับ พอมาถึงหอพักซึ่งเป็นทาวเฮาส์ที่ผมลงขันเช่าอยู่ด้วยกันกับไอ้ตี๋และพรรคพวก ดูจากภายนอกเงียบเชียบเหมือนกับไม่มีคนอยู่ทำให้พี่หมิวซึ่งเดินตามผมมานั้นมีสีหน้าดีขึ้น ดูท่าพี่หมิวก็ไม่ค่อยอยากให้ใครเห็นเธอเดินตามเด็กรุ่นน้องเข้ามาถึงที่หอพักนักหรอกเมื่อเข้ามาข้างในผมแล้ว เป็นการง่ายสำหรับผมเหลือเกินในการจัดการให้พี่หมิวดื่มส้มที่ผสมตัวยาขนานเดิมเอาไว้ แต่คราวนี้ผมเพิ่มยาตัวใหม่เข้าไปด้วย ผมเอาเงินพนันที่ได้จากไอ้ตี๋ไปซื้อมา เขาบอกว่าได้ผลชะงัดนัก ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ผมคิด วันนี้พี่หมิวคนสวยเสร็จไอ้ตี๋แหงๆ ผมพาพี่หมิวขึ้นมาชั้นบน ซึ่งแบ่งเป็นห้องๆ เป็นห้องนอนของใครของมัน และพาเดินเข้าไปในห้องนอนของผม แต่ก็เพียงแค่ชวนคุยกระเซ้าเย้าแหย่ เล่นเท่านั้น ทั้งๆ ที่อยากจะทำอย่างอื่นใจแทบขาด ที่สำคัญไอ้ห้องผมน่ะมันมีเก้าอี้ซะที่ไหน พี่หมิวต้องนั่งพับเพียบคุยกับ ผมเท่านั้น กระโปรงสั้นที่เธอใส่ก็ร่นขึ้นมาจนทำให้ผมจะหัวใจวายเสียให้ได้ นึกแช่งชักหักกระดูกตัวเอง ที่ดันใจร้อนไปตกลงกับไอ้ตี๋ ดูท่าพี่หมิวเองก็แปลกใจไม่น้อย ที่ผมไม่ยักจะทำอะไรเธอจนกระทั่งถึงเวลาที่ผมกะให้ก่อนยา ออกฤทธิ์เล็กน้อย ก็ทำทีเป็นขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วลุกขึ้นเดินผลุบออกมาที่ห้องของไอ้ตี๋ ไอ้เวรตะไลมันโผล่หน้ามา ยกนิ้วโป้งให้ผม และเดินย่องออกมาพยักเพยิดหน้าระรื่น ไอ้ผมก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดาย โบกมือเป็นสัญญาณให้มัน เข้าไปในห้องของผมได้ ซึ่งมันก็ไม่รีรอ ทำเป็นเดินเข้าไปเหมือนกับไม่รู้ว่าพี่หมิวอยู่ในห้อง แต่จะมาหาผม ผมยืนรีรออยู่ ตรงนั้นครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของพี่หมิวกับไอ้ตี๋ดังแว่วมาผมรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ รู้สึกอิจฉาไอ้ตี๋ชะมัดยาด ค่อยๆ เดินย่องกลับไปที่หน้าห้องของผมและโผล่หน้าไปดู ไอ้ตี๋มันทำเป็นตีสนิทนั่งคุยกับพี่หมิว แต่ผมเห็นมันอดทนอยู่ได้แป๊บเดียวก็รวบร่างพี่หมิวกดให้หงายลงไปบนฟูกที่นอนของผมอย่างไม่มีมาดเอาเสียเลย ยาสั่งของผมทำให้พี่หมิวดิ้นรนอยู่ไม่นานก็อ่อนระทวย และพอมือของไอ้ตี๋ที่ตะโบมไปตามลำขาอ่อน จนเปลี่ยนเสียงร้องห้ามของพี่หมิวให้เป็นเสียงครางออกมาแล้วเท่านั้นแหละก็เป็นอันจบเกม จากนั้นไม่นานพี่หมิวก็เปลือยเปล่าขาวโพลน นอนหงายขาถ่างให้ไอ้ตี๋กระเด้าโถมทะลวงเข้าไปในร่างของเธออย่างสุดมัน พี่หมิวไม่เพียงไม่มีอาการขัดขืน มิหนำซ้ำยังแอ่นสะโพกขึ้นรับสนองไอ้ตี๋อย่างถึงใจอีกด้วย ไอ้ตี๋มันคงอัดอั้นตันใจมานาน เห็นมันตะโบมบีบคลึงไปบนทรวงอกของพี่หมิวแล้ว นึกเสียวแทนว่าจะแหลกไปคามือมัน เสียงครางของพี่หมิวปนเปกันอยู่ระหว่างความเจ็บปวดและความเสียวซ่านรัญจวนใจ ผมมองดูไปแล้วขยุ้มไปที่ไอ้หนูของผมไปในที่สุดทนไม่ไหว ก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำจัดการช่วยตัวเองจนกระทั่งน้ำพุ่งกระฉูดจากนั้นผมก็เดินออกไปจากทาวน์เฮาส์ เพราะไม่อยากได้ยินเสียงที่ทำให้สุดแสนจะแสลงใจ ผมเดินเตร็ดเตร่ไปตามคณะต่างๆ ที่พอจะมีเพื่อนชวนคุยให้หายเซ็งอยู่ถึงเย็น พอผมกลับมาถึงทาวน์เฮาส์ มีรองเท้าวางเกลื่อนอยู่หน้าประตูบ้าน ก็เลยคิดว่าพรรคพวกคงกลับมาแล้ว แต่สงสัยอยู่ครามครันทำไมมีเสียงหัวเราะแปลกๆ ไม่ค่อยคุ้นหูดังแว่วมาจากในบ้าน พอเดินเข้ามาข้างใน สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอย่างชนิดที่เรียกว่าผมร้องคำชิบหายไปโดยไม่รู้ตัว ผมไม่รู้ว่าพี่หมิวไปทำให้ ไอ้ตี๋มันคับแค้นใจมากขนาดไหน แต่แหม..สิ่งที่มันทำ คนโฉดๆ อย่างผมยังรู้สึกว่าค่อนข้างแรงไปหน่อยเลย เพราะสิ่งที่ ผมเห็นตรงหน้าผมนั้นก็คือเด็กวัยรุ่นท่ากางกลัดมัน จับกลุ่มนั่งล้อมวงคุยกันอยู่ตามจุดต่างๆ สีหน้าท่าทางแต่ละคนบ่งบอก ถึงความสุข ชนิดที่ผมคุ้นตาดีเสมอเวลาไปตีหม้อกับเพื่อนๆ มีบ้างบางคนสวมกางเกงในตัวเดียวนั่งหอบหายใจ ราวกับไป เหน็ดเหนื่อยจากที่ไหนมา ผมวิ่งแหวกกลุ่มคนพรวดพราดขึ้นไปชั้นบน ที่หน้าห้องของผมมีเด็กวัยรุ่นท่าทางติดยางอมแงม ยืนเรียงรายอยู่เกือบสิบ ไม่นับรวมพวกที่เข้าไปขลุกอยู่ในห้องผมเดินขาสั่นเข้าไปชะโงกมอง ตอนนั้นพี่หมิวที่แทบไม่เหลือ สภาพสาวสวยดาวเด่นของมหาวิทยาลัย กำลังถูกแซนวิชอยู่บนฟูกทั้งประตูหน้าและประตูหลังพร้อมๆ กัน มิหนำซ้ำไอ้กร๊วก คนหนึ่ง ยืนสะโพกแอ่นขยุ้มไปที่ผมเผ้าอันยุ่งเหยิงของพี่หมิว บังคับให้อมไอ้จ้อนที่ยาวใหญ่ของมันอย่างมันในอารมณ์ ผมเห็นไอ้ตี๋ยืนจังก้าใช้กล้องวีดีโอมือถือ เดินวนถ่ายภาพของพี่หมิวเอาไว้ทุกแง่ทุกมุม ส่งเสียงหัวเราะแทบไม่ขาดเสียง พอเห็นผมเท่านั้นก็โบกไม้โบกมือยกนิ้วให้ผม สภาพของพี่หมิวที่ส่งเสียงครางกระเส่า ร่างบิดไหวสั่นสะท้านไปตามแรงโถม กระแทก ทั้งข้างล่างและข้างบนด้วยทีท่าที่ไม่ต่างอะไรกับกะหรี่ร่านสวาทนั้น ทำให้ผมแทบไม่อยากเชื่อสายตา เกือบ 6 ชั่วโมง ที่ผ่านมา พวกมันคงประเคนให้ทุกท่าจนพี่หมิวสติกระเจิดกระเจิงจนกู่ไม่กลับแล้ว ไอ้สงสารน่ะสงสาร แต่อย่างที่ว่า ผมมันไม่ได้เป็นคนดีเด่อะไร ในเมื่อทุกอย่างก็ผ่านพ้นมาถึงตอนนี้ ผมก็เลยผสมโรงไปกับพวกมัน กลายเป็นดาราหน้ากล้อง ให้ไอ้ตี๋เก็บไว้เป็นที่ระลึกนับจากวันนั้นไอ้ตี๋อาศัยวีดีโอเทปที่ถ่ายเอาไว้ บังคับให้พี่หมิวมานอนให้มันเชิดฉิ่งตามสบาย แทบทุกวัน จนไม่เป็นอันเรียนหนังสือ ผมน่ะจริงๆ ก็ยังติดใจในตัวของพี่หมิวอยู่นะ แต่ว่าไอ้ที่มากหน้าหลายตาวนเวียนกัน มาใช้บริการพี่หมิวนั้น ทำให้ผมเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากกว่า เลยกลั้นใจไม่ยุ่งด้วย ลงท้ายก็เก็บข้าวของออกไปพักต่างหาก และก็แทบจะไม่ได้เจอกับพี่หมิวที่มหาวิทยาลัยอีกเลย จนได้ข่าวว่าพี่หมิวถูกมหาวิทยาลัยรีไทร์ เพราะขาดเรียนมากเกินไป ผมนึกๆ ดูก็อด ด่าตัวเองไม่ได้ ที่พี่หมิวตกอยู่ในสภาพนี้ก็เป็นเพราะผมเริ่มต้นแท้ๆ