เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน ช่วงที่ฉันเองก็ทำหน้าที่ ที่ปรึกษาตามปกติ เพราะว่าเพื่อนสนิทของฉันนั้นค่อนข้างขี้งอน และเอาแต่ใจ ไม่ว่าอะไรก็จะโกรธ งอน ง้อ เลยทำให้ฉันต้องทำหน้าที่เป็นกาวใจครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป แฟนของเธอมาหาฉันที่ห้อง หิวเหล้ามากินด้วย ระบายความในใจ ระบายว่าเขาเริ่มที่จะเดินตามเพื่อนของฉันไม่ไหวแล้ว มันเป็นอะไรที่ทรมานในหัวใจมากจริงๆ ที่ต้องเป็นฝ่ายตามใจตลอดเวลา เขาต้องการช่วงเวลาส่วนตัว ต้องการคนรับฟังบ้าง เหมือนที่ฉันกำลังรับฟังเขาอยู่แบบนี้ฉันเข้าใจ ว่าฉันไม่เคยสำคัญอะไรเลย แต่ครั้งนี้ทำให้ฉันรู้ว่า ความเป็นที่สองของฉันคือการทำคะแนนอย่างถึงที่สุด เพราะว่าเขามองหน้าฉัน ก่อนจะถามว่า ต่อให้มันต้องเป็นความลับ ถ้าวันหนึ่ง เขาเลิกกับเพื่อนของฉัน ฉันพอที่จะเป็นคนนั้นให้เขาได้ไหม ฉันเลยถามเขาว่าพร้อมที่จะตัดเหตุผลทุกๆ อย่างออกไหม ถ้าพร้อม ฉันเองก็พร้อมเหมือนกัน เพราะว่าฉันเองก็ปลอบใจเขามาตลอด และรู้สึกว่า คนที่เขารักคือเพื่อนฉัน แต่คนที่เขาใจเขากลับมีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นสุดท้ายรักก็ไม่เท่าเข้าใจจริงๆ เขาต้องการคนที่เข้าใจ และทันทีที่เขาบอกว่าพร้อม ฉันเองก็บอกว่าพร้อมที่จะเป็นคนในความลับนั้นเช่นกัน เขาจึงโทรไปหาเพื่อนของฉันในขณะที่เปิดลำโพงอยู่ ก่อนที่ฉันจะได้ยิน เสียงเธอเป็นแบบเดิมอีกแล้ว เป็นเสียงที่เหมือนจะดีใจเวลาที่มีคนเข้ามาง้องอน และมันทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป เขาที่อยู่ตรงหน้าฉัน บอกว่าจะให้อิสระกับเธอ จากนี้จะไม่มีคนที่ทำให้เธอต้องเสียใจและงอนอีกแล้ว เขาบอกเลิกเธอ วินาทีนั้นฉันได้ยินเสียงเธอที่พยายามจะอธิบายและเป็นฝ่ายง้อบ้าง ลึกๆ ฉันเองก็แอบสะใจเหมือนกัน เพราะว่าเธอนั้นก็ควรที่จะรู้ได้แล้วว่าโลกไม่ได้หมุนรอบตัวเธอในเวลานี้เธอพยายามอธิบายโดยที่เขานั้นไม่ได้ตอบกลับไป เสียงร้องไห้ดังขึ้นมาผ่านลำโพงในขณะที่เราขยับใบหน้าเข้ามาหากัน แล้วจูบเย้ยหยันความงี่เง่าของเธอพร้อมทั้งลูบไล้เรือนร่างกายและกันท่ามกลางเสียงสะอึกสะอื้น คนที่เข้าใจย่อมกลายเป็นคนที่ทำคะแนนได้ดีเสมอ ในตอนสุดท้าย เธอถามว่าให้โอกาสเธอได้ไหม ที่จะไม่งี่เง่าแบบนี้อีกแล้ว แต่โอกาสมักจะไม่มีในวันที่สุกๆ อย่างมันสายไปแล้วนั่นแหละ ที่ฉันพยายามจะอธิบายให้เธอนั้นได้เข้าใจ เขาบอกว่าไม่ กดตัดสาย แล้วโถมร่างกายเข้ามาหาฉันจนเอนกายนอนโอบกอดลำคอของเขาอยู่บนพื้นเขาก้มหน้าลงจูบฉัน เราต่างแลกลิ้นกันอย่างนัวเนีย ฉันลูบไล้ไปทั่วๆ เรือนร่างเขา ราวกับเป็นความฝัน ลูบไล้ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ดึงกางเกงของเขาลงแล้วได้สัมผัสควยของเขาเป็นครั้งแรก หลังจากที่ต้องการมานานแสนนาน เพียงถูกแตะต้องเล็กน้อย ลำควยของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นมาทันที แม้ว่าตัวจะเล็ก แต่เขากลับควยใหญ่จนฉันรู้สึกว่ากำควยเขาแทบจะไม่รอบเลยทีเดียวเขาจัดการลุกขึ้นชันตัวเอง แล้วให้ฉันก้มลงไปอมควยพร้อมกับจับหัวกดลงไปให้พยายามอมให้สุดโคน แต่ว่ามันช่างยากเย็นเกินไป จนกระทั่งฉันสำลักออกมา เขาจึงบอกให้พอ แล้วผลักฉันลงไปนอนอีกครั้ง พร้อมทั้งเริ่มก้มหน้าลงมาลงลิ้นเลียหีให้ฉัน เขาจะรู้สึกดีไหมนะ ฉันจะหีสวยสู้เพื่อนตัวเองได้หรือเปล่า และฉันก็ไม่ได้หีชมพูเหมือนสาวสวยๆ ในอุดมคติด้วย ทว่านั้นกลับไม่ใช่ปัญหา เขาบอกว่ามันเป็นเรือนร่างของฉันก็พอแล้วเขาพูดพร้อมจับขาของฉันขึ้นมาประทับที่ต้นแขน ก่อนจะจ่อจรดควยเข้ามาที่รูหีของฉันที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำเงี่ยน ก่อนที่จะดันเข้ามาอย่างแช่มช้าจนสุดความยาว ก่อนที่จะเริ่มขยับไหวอย่างแช่มช้า และเริ่มรุนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ เสียงครางเริ่มไล่ระดับไปไม่ต่างจากจังหวะกระแทกเย็ดหีของฉันที่ถูกควยอันนั้นสวมสอดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งนานก็ยิ่งรู้สึกเสียวหี เกร็งร่างกายขมิบเสียจนตอดควยเขาไว้แน่นขนัด เสียงครางของเขาดังขึ้นมาแทรกกับเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแต่เขาไม่ได้สนใจเลย ตั้งใจเย็ดหีของฉันจนกระทั่งถึงทางฝัน ปล่อยน้ำควยแตกในคารูหีอย่างชุ่มฉ่ำกันไปทั้งเขาและฉัน โดยที่ควยของเขายังคงคาอยู่ในรูหีอยู่เลย ตอนที่โทรศัพท์สั่นเป็นครั้งที่ร้อย เขาหันมายิ้มแล้วถามว่า ควยยังไม่หายแข็งเลย ขอเย็ดต่อได้ไหม ?แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นฉันมองไปตรงนั้น เห็นเหมือนว่าเธอนั่งอยู่ด้วยเลยในความคิด จึงหันกลับไปหาเขาแล้วพยักหน้า วันนี้แหละ ฉันจะเย็ดกันเย้ยผู้หญิงงี่เง่าอย่างเธอเอง…ผัวเธอน่ะ ฉันขอนะเพื่อน
